ออกเดินทาง
จงทำระยะขณะยังสดใหม่

ก้าวแรกๆ ของการเดินทางย่อมมิใช่ก้าวแห่งความเหนื่อยล้า ทว่า เป็นก้าวย่างแห่งความตื่นเต้น ดวงตามองเห็นสิ่งใหม่สารพัน ความรู้สึกยังละเอียดอ่อน สองหูได้ยินเสียงนกและใบไม้ลู่ลม จมูกชื่นชมกลิ่นชื่นใจจากสภาพแวดล้อมสีเขียว ผิวหนังยังเรียบเนียนไร้ร่องรอยมดแมลงดุร้ายแม้เพียงริ้วรอย ดอกไม้เล็กๆ สองข้างทางกลายเป็นความรื่นรมย์ที่น่าสนใจ ผีเสื้อบินผ่านยังนึกในใจว่า มันบินมาทักทาย

เริ่มเดินทางเป็นห้วงเวลาแห่งความหวัง ความหวังเกิดขึ้นเสมอในจุดเริ่มต้น และมันย่อมสดใสที่สุดในจุดนั้น ก่อนที่จะหม่นหมองลงตามเรี่ยวแรงที่ถดถอยและอุปสรรคที่เพิ่มพูน ความหวังมักมาพร้อมพลังเสมอ จึงควรใช้ความหวังและพลังขณะที่มีให้ดีที่สุด มิควรเตลิดหลงไปกับความสดใสและสดใหม่จนลืมทำระยะ

ในขณะที่ร่างกายและหัวใจยังไม่มีความเหนื่อยล้าและรอยแผล นักเดินทางควรก้าวย่างอย่างเต็มที่ เพื่อมุ่งหน้าสู่จุดหมายที่ปักธงไว้ในวันแรก นักเดินทางจำนวนมากใช้เวลาในช่วงแรกไปกับการกินลมชมวิว เดินเรื่อยเปื่อย หรือกระทั่งเดินออกนอกเส้นทาง เพราะคิดว่าพละกำลังที่มีอยู่จะเต็มเปี่ยมเช่นนี้ตลอดไป การคิดเช่นนี้นับว่าประมาทถึงสองต่อ ประมาทต่อพละกำลังของตนเอง และประมาทต่อระยะทางที่ยาวไกล เพราะทั้งสองสิ่งนั้นแปรผกผันกันเสมอ ยิ่งเดินพละกำลังยิ่งลดลง และยิ่งพละกำลังลดลงหนทางก็ยิ่งทอดยาวออกไป อย่าได้ชะล่าใจในช่วงเวลาที่ยังมีพละกำลัง

นักเดินทางควรใช้ความสดใสและสดใหม่ให้เต็มที่ ขยับเข้าหาจุดหมายปลายทางให้ได้มากที่สุด นี่คือช่วงเวลาแห่งการทำระยะ เป็นช่วงเวลาที่ยังไม่ต้องต่อสู้กับความเหนื่อยล้าซึ่งจะปรากฏตัวออกมาเมื่อผ่านครึ่งทางไปแล้ว หัวใจยังเต้นในจังหวะปกติ กล้ามเนื้อทุกส่วนยังไม่แข็งตึง คอยังไม่แห้ง แรงยังไม่ตก ในหัวยังไม่มีคำถามบั่นทอนกำลังว่า เมื่อไหร่จะถึงจุดหมาย หากผ่านห้วงเวลานี้ไป ครั้นตั้งใจจะเร่งฝีเท้าก็ใช่ว่าจะทำได้อย่างใจนึก

หลายครั้ง การไปถึงหรือไม่ถึงจุดหมายตัดสินกันได้ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น หากใครใช้เวลาและเรี่ยวแรงกับสองข้างทางมากเกินไปอาจทำให้ไม่เหลือเวลาและเรี่ยวแรงเพียงพอให้ไปถึง บ้างอ้างว่าตัวเองเป็นม้าตีนปลาย แต่เมื่อผ่านครึ่งทางไปจึงเข้าใจว่า กำลังที่แบ่งไว้สำหรับตีนปลายนั้นไม่พอ

ความท้อมิได้เกิดขึ้นจากความเหนื่อยส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นเสมอเมื่อมองเห็นแผ่นหลังของคนที่นำหน้าเราอยู่ไกลลิบ ยิ่งตัวเขาหดเล็กลงเท่าไหร่ กำลังใจยิ่งหดเล็กลงเท่านั้น

จริงอยู่ว่า สำหรับบางคน การเดินทางขึ้นสู่ภูผามิใช่การแข่งขัน แต่ระยะห่างที่ทิ้งกันสามารถทำให้บางคนถอดใจ บางครั้งความไกลมิได้ตัดสินที่ปลายทาง หากตัดสินที่ระยะห่างของการถูกนำ และถ้าระยะห่างนี้มากเกินไป ความท้อใจมักจะผุดขึ้นมาและขยายตัวพองใหญ่ราวกับจะถมทับช่องว่างของระยะห่างนั้น กระทั่งถูกนำมาเป็นข้ออ้างของการเลิกเดิน

อย่าได้ถูกทิ้งห่าง อย่าได้ใช้เวลาช่วงแรกของการเดินทางอย่างชะล่าใจ อย่าได้เสียความสดใสไปกับสิ่งไร้สาระ กระนั้น ก็อย่าได้ตั้งหน้าตั้งตาเดินจนลืมสัมผัสกับความรู้สึกสดใหม่ที่จะเกิดขึ้นเพียงแค่ในช่วงแรกเริ่มเดินทางเท่านั้น เปิดประสาทสัมผัสทั้งห้าและอีกหนึ่งหัวใจออกเพื่อรับประสบการณ์และความรู้สึกที่ไม่เคยได้รับมาก่อน ดอกไม้ ท้องฟ้า ต้นหญ้า เสียงนก แสงแดด ผีเสื้อ กลิ่นหอมของป่า แววตาที่สดใสของเพื่อนข้างๆ ความงามของสองข้างทาง อย่าได้หลงลืมที่จะสัมผัสมัน

ใส่ใจจุดหมาย แต่ไม่ละเลยสองข้างทาง
ไปให้ถึงจุดหมายที่ตั้งใจ แต่ไม่พลาดความงามที่ไม่ตระเตรียม
ใช้ความสดใหม่อย่างเต็มเปี่ยม มิใช่เพียงเพื่อเร่งฝีเท้า ทว่าเพื่อสัมผัสสรรพสิ่งที่ไม่เคยสัมผัส ความตื่นเต้นทำให้เรากลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง แม้ไม่ได้เปล่งเสียงออกมาให้ใครฟัง เสียงนั้นย่อมดังอยู่ในใจ ความสดใหม่

เป็นสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญและผู้ชำนาญการตามกลับมาไม่ได้ เราไม่สามารถรักษามันไว้ แต่ใช้มันได้อย่างเต็มที่
ก่อนที่ความเหนื่อยล้าจะเข้ามาทักทาย จงยิ้มและหัวเราะในเวลาที่ทำได้
รอยยิ้มไม่จำเป็นต้องปรากฏบนยอดเขาเท่านั้นหรอก