ผู้นำทาง จงมองหาผู้นำทาง ที่ทำให้คุณรักการเดินทาง
เราไม่สามารถนำบ้านไปด้วยได้ทุกที่ เมื่อต้องการไปถึงจุดหมาย เราจำเป็นต้องสละบ้านที่คุ้นเคย มิเพียงสถาปัตยกรรม แต่ยังหมายถึงสมบัติพัสถาน ข้าวของเครื่องใช้ สิ่งอำนวยความสะดวกนานาประการ สรรพสิ่งที่เคยคิดว่าจำเป็นกลับกลายเป็นส่วนเกินเมื่อเผชิญกับเส้นทางยาวไกล
มีเพียงบางสิ่งเท่านั้นที่คู่ควรแก่การพกพา มิได้วัดกันที่ราคาหรือความงาม แต่วัดกันที่ความจำเป็น
กระทั่งความงามยังกลายเป็นส่วนเกิน เพราะการเดินทางที่แท้จริงมิได้ต้องการสรรพสิ่งไว้อวดใคร นักเดินทางในป่าล้วนจับจ้องไปที่จุดหมายปลายทาง ละวางมายาที่เคลือบแฝงมากับการประดับประดาทั้งหลาย สุดท้ายแล้วชีวิตจึงต้องการน้อยกว่าที่เคยคิดเอาไว้มากมายนัก
การเดินทางมิใช่การเดินแบบ นักเดินทางมิใช่มนุษย์ประเภทที่ต้องการให้โลกมองเรา เราต่างหากที่ต้องการมองโลก
มอง-เพื่อเรียนรู้และอยู่ด้วย
เกณฑ์ตัดสินใจว่าสิ่งใดควรนำไปมีอยู่เพียงง่ายๆ คือ สิ่งนั้นเป็นประโยชน์หรือไม่ หากไม่มีประโยชน์อันใดก็ควรวางไว้ที่บ้าน ในการเดินทางไกลสิ่งรุงรังล้วนเพิ่มภาระให้กับนักเดินทาง และเพิ่มน้ำหนักให้บ่าซ้ายขวาโดยไม่จำเป็น เมื่อลองแยกสิ่งที่เป็นประโยชน์กับไร้ประโยชน์ออกจากกัน เราพลันพบว่าชีวิตล้วนแวดล้อมไปด้วยสิ่งไร้ประโยชน์ที่เราอยากมี ซึ่งบางทีเราอยากมีเพียงเพราะเห็นว่าคนอื่นเขามีกัน
ธรรมชาติของการเดินทางคือการละทิ้งและตัดทอน ข้าวของย่อมลดลงเรื่อยๆ ขณะที่เท้าก้าวไกลออกไปจากจุดเริ่มต้น เสบียงกรังทั้งหลายที่เตรียมมาย่อมถูกใช้สอยให้ร่อยหรอลง การเดินทางจึงตรงข้ามกับการสะสม แต่ใกล้เคียงกับการละ ทิ้ง และปล่อยวาง
ในแง่หนึ่ง การเดินทางคือการฝึกวิชาตัวเบา
เมื่อพรุ่งนี้ไม่มีบ้านให้กลับ และยังต้องเดินหน้าต่อไป เราไม่สามารถขนข้าวของที่ชอบใจกลับไปไว้ที่บ้าน ทำได้เพียงชื่นชมกับสิ่งนั้นในห้วงเวลานั้น เก็บได้เพียงความทรงจำใส่สมอง
ไม่ว่าดอกไม้ ก้อนหิน ก้อนเมฆ ภูผา จันทรา และอาทิตย์ เราได้แต่ปล่อยไว้ตรงนั้น พร้อมๆ กับปล่อยความอยากเก็บมันกลับไปไว้ ณ จุดเดียวกันด้วย
ละวางข้าวของย่อมเบาตัว ละวางความอยากย่อมเบาใจ
ในแง่หนึ่ง การเดินทางคือการฝึกวิชาใจเบา
ยิ่งเข้าใกล้จุดหมายข้าวของยิ่งน้อยลง ยิ่งเข้าใกล้จุดหมายความทรงจำยิ่งมากขึ้น
การมีเป็นคนละเรื่องกับการเป็น การครอบครองข้าวของมิได้เปลี่ยนแปลงตัวเราแต่อย่างใด ความทรงจำและประสบการณ์ต่างหากที่ทำให้เรากลายร่างเป็นอีกคนหนึ่ง เป็นคนที่เข้มแข็งและกล้าหาญมากขึ้น มองเห็นโลกในมุมที่กว้างกว่าที่เคย ปรับเปลี่ยนขนาดหัวใจให้กว้างขวางเพื่อรองรับความแตกต่างหลากหลาย ไม่ท้อหรือยอมแพ้ง่ายจนเกินไป พร้อมๆ กับยอมรับว่าตัวเรากระจิ๋วหลิวเพียงใดในโลกอันกว้างใหญ่ใบนี้
นั่นย่อมหมายถึงการละวางอีกสิ่งหนึ่ง สิ่งซึ่งมองไม่เห็นแต่มีน้ำหนักมากที่สุด สิ่งนั้นคืออัตตา หรือการสำคัญตน อัตตามีพลังทำให้จักรวาลหมุนรอบตัวเรา ต้องการเปลี่ยนทุกอย่างให้เป็นอย่างใจ ใครทำอะไรผิดใจก็กลายเป็นความผิดฉกรรจ์ อัตตามาพร้อมความอยากมี อยากได้ อยากเป็น อัตตาจึงมาพร้อมความไม่พอใจ การสะสม และความต้องการอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ผู้ที่ต้องการบัญชาการโลกใบนี้ให้เป็นอย่างใจย่อมหยุดความอยากมีได้ยาก และจะทุกข์ใจมากหากโลกไม่ได้หมุนไปในทิศทางที่ตนต้องการ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นอุปสรรคกีดขวางการเดินทางอย่างเบาสบาย
หากสิ่งสำคัญของการจัดเป้จัดกระเป๋าคือการเอาของไม่จำเป็นออกให้หมด สิ่งสำคัญของการจัดการหัวใจสำหรับนักเดินทางคงไม่ต่างกัน ควรนำอัตตาออกจากบ่าทั้งสองข้าง-หากทำได้ แต่ไม่ต้องกังวลไป หากคุณไม่สามารถนำมันออกไป เส้นทางอันยาวไกลจะค่อยๆ จัดการกับมันเอง